การวางแผนประกันภัย (Insurance Planning)
การวางแผนประกันภัยนี้ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการวางแผนการเงิน เพราะถือว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงชนิดหนึ่ง เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต ทุพลภาพ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นแล้ว อาจต้องเสียเงินในการดูแลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การวางแผนการประกันภัยนี้ เปรียบเสมือนกับการวางแผนเพื่ออุดรอยรั่วต่างๆทางการเงินของเรา ในระหว่างที่เราทำงานเพื่อหารายได้มาตอบสนองต่อเป้าหมายทางการเงินต่างๆของเราในอนาคต หากเราไม่ทำการอุดรอยรั่วต่างๆนี้แล้ว หากเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น เราอาจต้องนำเงินเก็บบางส่วน หรืออาจจะทั้งหมดมาใช้ ทำให้เป้าหมายทางการเงินที่เราตั้งใจไว้ ต้องสะดุดหยุดลง
การวางแผนประกันชีวิต (Life Insurance)
ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือหนึ่งในการวางแผนทางการเงินที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ เช่น
- เพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตร
- เพื่อเป็นเงินออมไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ
- เพื่อเป็นกองทุนสำรองในการรักษาพยาบาลจากโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุต่างๆ
- เพื่อความมั่นคงทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว
ประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
- ชนิดไม่มีส่วนร่วมในเงินปันผล
- ชนิดมีส่วนร่วมในเงินปันผล
ประเภทของประกันชีวิต สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- ประเภทอุตสาหกรรม
- เหมาะกับผู้ที่มีรายได้น้อย ทุนประกันภัยเฉลี่ยต่ำ เบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นรายเดือน ไม่มีการตรวจสุขภาพ
- มีระยะเวลารอคอย
- ประเภทกลุ่ม
- ให้ความคุ้มครองหลายคนในกรมธรรม์เดียวกัน เหมาะสำหรับเป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน ทุนประกันขึ้นอยู่กับลักษณะงาน เน้นความคุ้มครองชีวิต
- ประเภทสามัญ
- เหมาะกับผู้ที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป ทุนประกันภัยเฉลี่ยปานกลางถึงสูง การชำระเบี้ยประกันมีทั้งรายเดือน รายไตรมาสและรายปี อาจมีการตรวจสุขภาพหรือแถลงสุขภาพ ทำสัญญาเพิ่มเติมได้
แบบของประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 แบบปกติ
- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ( Term Life Insurance )
- เป็นประกันชีวิตแบบเบี้ยสูญเปล่า มีระยะเวลาคุ้มครองที่แน่นอน จ่ายทุนประกันเฉพาะกรณีเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญาเท่านั้น ไม่มีส่วนของการออมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนัก แต่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบสูง หรือใช้ในการคุ้มครองหนี้สิน
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ( Whole Life Insurance )
- มีระยะเวลาคุ้มครองตลอดชีพสูงสุด 99 ปี การจ่ายทุนประกันจะจ่ายทั้งกรณีที่เสียชีวิตก่อนครบสัญญา และอยู่ครบสัญญา มีทั้งความคุ้มครองและการออมบางส่วนด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติม หรือต้องการไว้เป็นมรดกก้อนสุดท้าย
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ( Endowment Insurance )
- มีระยะเวลาคุ้มครองที่แน่นอน การจ่ายทุนประกันมีการจ่ายทั้งกรณีเสียชีวิตก่อนครบสัญญา และอยู่ครบสัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่มีการวางแผนการออมเพื่อเป้าหมายที่แน่นอน
- แบบรายได้ประจำ หรือแบบบำนาญ ( Annuity Insurance )
- มีระยะเวลาในการส่งเบี้ยประกันถึงอายุที่กำหนด เช่น 60 ปี มีการกำหนดอายุที่เริ่มได้รับผลประโยชน์ที่แน่นอน มีรายได้ประจำที่แน่นอนหลังจากเกษียณ ไม่คุ้มครองชีวิต เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนเพื่อมีรายได้หลังเกษียณ
การวางแผนประกันสุขภาพ
ถึงแม้ว่าประกันชีวิตข้างต้น จะมีความสำคัญต่อการวางแผนทางการเงิน การประกันสุขภาพก็มีความสำคัญไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เพราะการประกันสุขภาพก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง ที่จะนำมาช่วยในการอุดรอยรั่วของแผนการเงิน หลายๆคนอาจจะมองข้ามในเรื่องของการประกันสุขภาพไป เพราะคิดว่าตนเองมีสวัสดิการต่างๆแล้ว แต่มิได้พิจารณาว่า สวัสดิการที่มีอยู่นั้น ครอบคลุมปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น บางครั้งอาจจะรุนแรงถึงขั้นกระทบต่อแผนการเงินที่ได้วางไว้ หรือหนักกว่านั้นอาจกระทบถึงสถานะทางการเงินหรือ ความเป็นอยู่ที่อาจจะวิกฤติขึ้นมาได้
การประกันสุขภาพ เป็นการโอนความเสี่ยงในเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในด้านสุขภาพ ไปให้กับบริษัทประกันเป็นผู้รับภาระต่างๆนั้นแทน ทำให้เราไม่ต้องนำเงินที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้ ทำให้เป้าหมาย หรือสภาพความเป็นอยู่ของเรายังเป็นไปตามปกติ
สัญญาเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ
- กลุ่มที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพ
เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ทั้งแบบที่เป็นผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน จากการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือจากอุบัติเหตุ
- กลุ่มที่ให้ความคุ้มครองในด้านการชดเชยรายได้
เป็นการชดเชยการสูญเสียรายได้หากต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล รวมถึงการชดเชยกรณีทุพพลภาพ ไม่สามารถทำงานหารายได้ต่อไปได้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวบางส่วนได้
- กลุ่มที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคร้ายแรง
ซึ่งมีทั้งการขดเชยเป็นรายวันและการชดเชยเป็นเงินก้อน เพื่อช่วยให้มีทุนในการรักษาโรคร้ายแรงนั้นๆ ซึ่งบางโรคมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง
- กลุ่มที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ
เป็นการให้ความคุ้มครองในด้านการชดเชยค่ารักษาพยาบาล การชดเชยการสูญเสียอวัยวะ รวมถึงการสูญเสียชีวิตอันเนื่องจากอุบัติเหตุ ซึ่งในปัจจุบันมีการรวมความคุ้มครองไปถึงการถูกฆาตกรรม ลอบทำร้าย หรือการจลาจลอีกด้วย
การวางแผนประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance)
การวางแผนทางการเงินจะไม่สมบูรณ์เลย หากยังมีช่องโหว่ให้เงินรั่วไหลได้ การประกันวินาศภัยเป็นการอุดรอยรั่วที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของเรา หากเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน การประกันวินาศภัยจะเป็นการช่วยบรรเทาความสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัวได้ การประกันวินาศภัย เป็นการซื้อความคุ้มครองให้กับทรัพย์สิน เพื่อช่วยให้แผนการเงินของเราแข็งแกร่งขึ้น
การประกันวินาศภัย แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ
- การประกันภัยที่เกี่ยวกับบุคคล แบ่งเป็น
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ประกันอุบัติเหตุหมู่
- การประกันภัยเกี่ยวกับทรัพย์สิน แบ่งเป็น
- การประกันอัคคีภัย ประกันอัคคีภัยสำหรับภัยทั่วไป ประกันอัคคีภัยสำหรับทีอยู่อาศัย การประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ เช่น พรบ. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
- การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง ประกันภัยการขนส่งสินค้า การประกันภัยตัวเรือ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
- การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดทางกฎหมาย
- การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยอื่นๆ